Deepwater Horizon ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงแห่งการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของอเมริกา เหตุการณ์หายนะรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2010 แท่นขุดเจาะน้ำมันขนาดใหญ่ “Deepwater Horizon” ใจกลางอ่าวเม็กซิโกได้เกิดระเบิดขึ้น ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจารึก
ในภาพยนตร์เรื่องนี้เนื้อเรื่องหลักๆ ก็จะเล่าถึงการเอาชีวิตรอด ความกล้าหาญ ความเสียสละ มิตรภาพ ของพนักงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันแต่ละคน เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์รุนแรงที่ดูเหมือนจะสิ้นหวัง และแทบจะไม่มีทางเอาชีวิตรอดออกมาได้ แต่เรื่องราวก็จะเหมือนกับภาพยนตร์หายนะทั่วๆไปเลยก็คือ การสร้างวีรบุรุษของความกล้าหาญสำหรับเหตุการณ์หายนะครั้งนั้น
(แท่น แท๊นนนน นี่ไงๆ โฉมหน้าของวีรบุรุษในเรื่องนี้)
ภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยการแสดงให้เห็นชีวิตประจำวันของตัวละครเอก กับครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น และด้วยภาระหน้าที่การงาน ทำให้เขาต้องเดินทางไปยังแท่นขุดเจาะน้ำมัน Deepwater Horizon และพาคนดูเดินชมการทำงานในแต่ละฝ่ายของแท่นขุดเจาะ (อารมณ์เหมือนพาเราไปเดินในแท่นด้วยยังไงยังงั้นเลยแหละ) เพื่อเผยเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่จุดพลิกผันก็คือ การเผยให้เห็นถึงการทำงานภายในและข้อผิดพลาดที่ทำให้แท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งนี้ระเบิดขึ้นและเปลี่ยนทะเลบริเวณนั้นให้กลายเป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ลุกท่วมภายในเวลาไม่กี่นาที
(ครอบครัวที่จะอบอุ่น ภรรยาแสนสวย กับลูกสาววัยกำลังน่าร้ากก ของตัวละครเอก)
.
.
.
บรรยากาศการทำงานบนแท่นขุดเจาะ
ตัวภาพยนตร์ทำให้เห็นถึงบริบทในสังคมทั่วๆไป เรื่องความเห็นแก่ได้ของนายทุนเจ้าปัญหา (ไม่ชอบคนแบบนี้เอาซะเลยจริงๆ) ที่ตามจริงแล้วควรต้องซ่อมแซมแท่นขุดเจาะในตอนนั้น แต่กลับละเลยจนนำไปสู่จุดไคล์แมกซ์ของเรื่อง คือแท่นขุดเจาะสึกหรอทำให้เกิดการพุ่งของน้ำมันจนกลายเป็นการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ จนกระทั่งคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆลงได้ โดยที่ทีมกู้ภัยชายฝั่งเข้ามาช่วยชีวิตพนักงานบนแท่นขุดเจาะไปได้ แต่ก็ยังมีเรื่องน่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ถึง 11 คน ส่วนพนักงานที่รอดชีวิตมาได้ก็ได้มีการไล่เช็ครายชื่อผู้ที่รอดชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมของภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะทำให้เห็นถึงความเอาใจใส่และเสมือนเป็นการบอกเล่าผ่านการแสดงไปเลย และในตอนสุดท้ายก็ยังมี End Credit ให้ดู เป็นภาพข่าวเหตุการณ์จริงของ Deepwater Horizon และภาพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ทั้งหมด 11 คน
(นี่แง่ะ!! นายทุนเจ้าปัญหา)
ที่เป็นสาเหตุหลักๆของเหตุการณ์นี้ อ่ะ หึหึ
V
V
การแต่งกายในเรื่องก็มีการแบ่งแยกให้เห็นได้ชัดเจนดีระหว่างนายทุนกับพนักงานบนแท่นขุดเจาะ นายทุนก็จะไม่ได้มีเครื่องแบบก็แต่งตัวปกติใส่เสื้อเชิ้ตกางเกงทั่วๆไป ส่วนพนักงานบนแท่นขุดเจาะก็จะเป็นเครื่องแบบชุดช่างแบบวิศวกรไปเลย และใส่หมวกแบบ Safety กันทุกๆฝ่าย ในส่วนของฉาก
ใส่ชุดใส่หมวก Safety อย่างดี เมื่ออยู่ในไซด์งาน
.
.
ภาพยนตร์มีการลงทุนสร้างแท่นขุดเจาะได้ดูสมจริงในทุกๆส่วนของแท่นขุดเจาะน้ำมันสร้างอารมณ์ให้รู้สึกถึงความเสี่ยงในการทำงานตลอดเวลา แต่ก็ยังมีซีนที่หยุดอารมณ์กดดันด้วยการแทรกความโรแมนติกของไมค์(ตัวละครเอก) กับภรรยาของเขาผ่านวิดีโอคอล ก่อนจะกระชากอารมณ์ด้วยเหตุการณ์พุ่งของน้ำมัน
(ไงล่ะๆๆ โรแมนติกแค่ไหนดูได้จากท่าวิดีโอคอลปายยยย กิ้วๆๆๆๆ)
CG ในส่วนของการพุ่งของน้ำมันทำได้สมจริง (เอาซะหลบตามไปเลยทีเดียว) และตามมาด้วยการระเบิด (อันนี้ต้องขอชื่นชมฝ่าย CG ของเรื่องนี้เลยที่ทำได้สมจริงจนคนดูถึงกับมีการอาการเกร็ง จิกเท้าร่วมลุ้นไปตามๆกัน) และสุดท้ายที่ทำให้เห็นก็คือภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆและระบบนิเวศในทะเลนั้น มันช่างน่าหดหู่จริงๆนะ TT อ๊อออ แล้วอีกเรื่องที่น่าชื่นชมสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ Sound Effect ซึ่งทำเสียงระเบิดตู้มมมตามมมได้ถึงอารมณ์มากๆเลยทีเดียว
มาดู CG ที่ เจ๋ง สมจริงกันดีกว่าาา
.
.
และนี่ก็คือผลกระทบทางระบบนิเวศในทะเล คราบน้ำมันแผ่พื้นที่กว้างม๊ากกกก
และสุดท้าย ๆ ๆ ๆ
.
.
สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบไปด้วย (น่าสงสารมากๆ ดูแล้วหดหู่มากจริงๆ TT)
เหตุการณ์นี้ถือเป็นมหันตภัยทางน้ำมันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกต้องจารึกไว้ เพราะไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตของพนักงานที่ทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมัน แต่ยังส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตทางน้ำอื่นๆ และระบบนิเวศในทะเลเป็นวงกว้างอีกด้วย